-
วิปัสสนา
- พ้นโลก
-
๔ พระอรหันต์
-
บรรลุเมื่อ
-
ละสังโยชน์ได้ครบ 10 ประการ
- โอรัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องต่ำ 5
- สักกายทิฏฐิ
ได้แก่ความเห็นผิดว่า กายใจเป็นของตนเอง และเห็นว่ามีตัวมีตน
- วิจิกิจฉา
ได้แก่ความลังเลเคลือบแคลงสงสัย ในเรื่องการปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์
- สีลัพพตปรามาส
ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้เพียงด้วยศีลและวัตร หรือนำศีลและพรตไปใช้เพื่อเหตุผลอื่น ไม่ใช่เพื่อเป็นปัจจัยแก่การสิ้นกิเลส เช่นการถือศีลเพื่อเอาไว้ข่มไว้ด่าคนอื่น การถือศีลเพราะอยากได้ลาภสักการะเป็นต้น
- กามราคะ
ได้แก่ความหลงอาลัยติดใจอยู่กับกามหรือกามคุณ ๕ คือ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส
- ปฏิฆะ
ได้แก่ความขุ่นเคืองหงุดหงิดภายใน ความขุ่นใจ อันก่อให้เกิดโทษะ คือ ความโกรธ และพยาบาทคิดร้ายต่อผู้อื่น
- อุทธัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องสูง 5
- รูปราคะ
ได้แก่ ความรักความพอใจกับความสุขอันเกิดจากการที่ได้ รูปฌาน
- อรูปราคะ
ได้แก่ ความรักความพอใจกับความสุขอันเกิดจากการที่ได้ อรูปฌาน
- มานะ
ได้แก่ความรู้สึกถือตัวตนว่า ต่ำกว่าคนอื่น ดีกว่าคนอื่น หรือเสมอกับคนอื่น อันเป็นเหตุให้เกิด ความน้อยใจ ความทะนงใจ ความคิดที่จะแข่งดี
- อุทธัจจะ
ได้แก่ ความฟุ่งซ่านไปกับสิ่งที่มากระทบ ตามอำนาจความยั่วยวนใจของมัน ทำให้เกิความอยากได้ (โลภะ) เมื่อไม่ได้ตามประสงค์ก็ทำให้หาอุบายที่จะให้ได้มาจนเป็นเหตุให้ผิดศีล และก่อให้เกิด ความสงสัย หวาดกลัว วิตกกังวล ระแวง ซึ่งในที่สุดก็ทำให้ต้องเป็นทุกข์
- อวิชชา
ได้แก่ความไม่รู้หรือความปราศจากความรู้อันถูกต้อง คือความรู้ที่จะทำให้ดับทุกข์ได้แน่นอนเด็ดขาด
-
๓ พระอนาคามี
-
บรรลุเมื่อ
-
ละสังโยชน์เบื้องต่ำ(โอรัมภาคิยสังโยชน์ ) ทั้ง ๕ ประการ
- สักกายทิฏฐิ
- วิจิกิจฉา
- สีลัพพตปรามาส
- กามราคะ
- ปฏิฆะ
-
๒ พระสกทาคามี
-
บรรลุเมื่อ
-
ละสังโยชน์เบื้องต่ำ(โอรัมภาคิยสังโยชน์ ) ๓ ประการ
- สักกายทิฏฐิ
- วิจิกิจฉา
- สีลัพพตปรามาส
-
ทำสังโยชน์เบื้องต่ำ(โอรัมภาคิยสังโยชน์ ) อีกสองประการที่เหลือให้เบาบางลง
- กามราคะ
- ปฏิฆะ
-
๑ พระโสดาบัน
-
บรรลุเมื่อ
-
ละสังโยชน์เบื้องต่ำ ๓ ประการ
- สักกายทิฏฐิ
- วิจิกิจฉา
- สีลัพพตปรามาส
-
ประเภท
- เอกพิชี
เกิดในภพมนุษย์อีกเพียงชาติเดียวแล้วบรรลุเป็นพระอรหันต์
- โกลังโกละ
เกิดในมนุษย์โลกและเทวโลก อีก ๒-๓ ครั้ง แล้วบรรลุเป็นพระอรหันต์
- สัตตักขัตตุงปรมะ
ท่องเที่ยวไปเกิดในมนุษย์โลกและเทวโลก อีกไม่เกิน ๗ ครั้ง แล้วบรรลุเป็นพระอรหันต์
-
สมถะที่ได้ฌาน
-
อรูปพรหม ๔ ชั้น
- ชั้นที่ ๒๐ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ
- ชั้นที่ ๑๙ อากิญจัญญายตนภูมิ
- ชั้นที่ ๑๘ วิญญาณัญจายตนภูมิ
- ชั้นที่ ๑๗ อากาสานัญจายตนภูมิ
-
รูปพรหม ๑๖ ชั้น
-
จตุตถฌานภูมิ ๗
- ชั้นที่ ๑๖ อกนิฏฐสุทธาวาสภูมิ
ชั้นที่ ๑๕ สุทัสสีสุทธาวาสภูมิ
ชั้นที่ ๑๔ สุทัสสาสุทธาวาสภูมิ
ชั้นที่ ๑๓ อตัปปาสุทธาวาสภูมิ
ชั้นที่ ๑๒ อวิหาสุทธาวาสภูมิ
- ชั้นที่ ๑๑ อสัญญีสัตตาภูมิ
ชั้นที่ ๑๐ เวหัปผลาภูมิ
- ปัญจสุทธาวาส หรือ สุทธาวาสภูมิ
(ภูมิของผู้เป็นอนาคามี)
สุทธาวาสภูมินี้มีอยู่ 5 ชั้น ตั้งอยู่ท่ามกลางอากาศ และตั้งอยู่เป็นชั้นๆ ขึ้นไป
- ตั้งอยู่ ณ พื้นที่ระดับเดียวกัน แต่แยกสถานที่กันอยู่ และมีระยะห่างไกลกันมาก
-
ตติยฌานภูมิ ๓
ตั้งอยู่ ณ พื้นที่ระดับเดียวกัน แต่แยกสถานที่เป็น 3 เขต
- ชั้นที่ ๙ สุภกิณหาภูมิ
- ชั้นที่ ๘ อัปปมาณสุภาภูมิ
- ชั้นที่ ๗ ปริตตสุภาภูมิ
-
ทุติยฌานภูมิ ๓
ตั้งอยู่ ณ พื้นที่ระดับเดียวกัน แต่แยกสถานที่เป็น 3 เขต
- ชั้นที่ ๖ อาภัสราภูมิ
- ชั้นที่ ๕ อัปปมาณาภาภูมิ
- ชั้นที่ ๔ ปริตรตาภาภูมิ
-
ปฐมฌานภูมิ ๓
ตั้งอยู่ ณ พื้นที่ระดับเดียวกัน แต่แยกสถานที่เป็น 3 เขต
- ชั้นที่ ๓ มหาพรหมาภูมิ
- ชั้นที่ ๒ พรหมปุโรหิตาภูมิ
- ชั้นที่ ๑ พรหมปาริสัชชาภูมิ
-
ทาน, ศีล, ภาวนา
-
สวรรค์ ๖ ชั้น
- ๖ ปรนิมิตวสวัตติภูมิ
เป็นสวรรค์ชั้นที่ 6 อยู่สูงจากสวรรค์ชั้นนิมมานรดี 672,000 โยชน์ มี พระยาปรนิมมิตวสวัตตี ปกครองผู้เป็นเทวดา และมี พระยามาร ปกครองเหล่ามาร เจ้าทั้งสองจะไม่เคยพบเจอกันเลย แม้จะอย่สวรรค์ชั้นเดียวกัน
- ๕ นิมมานรดีภูมิ
เป็นสวรรค์ชั้นที่ 5 อยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดุสิต 336,000 โยชน์
- ๔ ดุสิตาภูมิ
เป็นสวรรค์ชั้นที่ 4 อยู่สูงจากสวรรค์ชั้นยามา 168,000 โยชน์ มี พระยาสันดุสิตเทวราช พระโพธิสัตว์ซึ่งจะเสด็จลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า มี พระศรีอาริย์โพธิสัตว์ ซึ่งจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า
- ๓ ยามาภูมิ
เป็นสวรรค์ชั้นที่ 3 อยู่สูงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 84,000 โยชน์ มี พระยาสยามเทวราช ครองอยู่ สวรรค์ชั้นนี้สูงกว่าวิถีการโคจรของพระอาทิตย์ แต่ก็ไม่มืดเนื่องจากรัศมีแก้วและรัศมีตัวเทวดาส่องสว่างอยู่เสมอ
- ๒ ดาวดึงส์
เป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 มีเทวดาผู้เป็นใหญ่ในชั้นนี้คือ ท้าวสักกะเทวราช หรือที่เรียกกันว่า "พระอินทร์"
-
๑ จาตุมหาราชิกาภูมิ
สวรรค์ชั้นแรก สูงจากพื้นโลกได้ 46,000 โยชน์ เป็นดินแดนของผู้มีจิตใจสูงส่ง แต่ยังเกี่ยวข้องในกามคุณแปลว่าแดนแห่ง 4 มหาราช ครองเมืองใหญ่ 4 เมือง
- ท้าวธตรฐ เป็นเจ้าเมืองทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมรุ เป็นใหญ่เหนือคนธรรพ์
ท้าววิรูปักษ์ เป็นเจ้าเมืองทางทิศตะวันตกของเขาพระสุเมรุ เป็นใหญ่เหนือนาค
ท้าววิรุฬหก เป็นเจ้าเมืองทางทิศใต้ของเขาพระสุเมรุ เป็นใหญ่เหนือพวกกุมภัณฑ์
ท้าวไพศรพ เป็นเจ้าเมืองทางทิศเหนือของเขาพระสุเมรุ เป็นใหญ่เหนือพวกยักษ์
- ท้าวมหาราชทั้ง 4 นี้เรียกรวมๆว่า จตุโลกบาล คือผู้ดูแลรักษาโลกทั้ง 4 ทิศ
- มนุษย์ ๑
คนที่รู้จักบาปและบุญ รู้กลัวรู้ละอายแก่บาป รู้รักพี่รักน้อง รู้กรุณาคนยากจนเข็ญใจ และรู้จักยำเกรงพ่อแม่ผู้เฒ่าผู้แก่ครูอาจารย์ และรู้จักคุณแก้ว 3 ประการ คือ พระรัตนตรัย
-
ทำบาป
-
อบายภูมิ ๔
- เดรัจฉานติภูมิ
- เปรตวิสัยภูมิ
- อสุรกายภูมิ
-
มหานรก ๘ ขุม
- ๑ สัญชีวะ
- ๒ กาฬสุตตะ
- ๓ สังฆาฏะ
- ๔ โรรุวะ
- ๕ มหาโรรุวะ
- ๖ ตาปนะ
- ๗ มหาตาปนะ
- ๘ อเวจี